ดูซีรีย์ออนไลน์ ซีรี่ย์ฝรั่ง
ซีรี่ย์ฝรั่ง Carnival Row (SS1) ปัญหาโลกต่างชนิด ผิดแผกแตกต่างรวมทั้งอันเดียวซีรีส์แนวดราม่าแฟนตาซีสืบสาว ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากบทภาพยนตร์ที่มิได้ใช้อย่าง A Killing on Carnival Row การฆาตกรรมเมืองมรณะ ซึ่งเป็นบทที่ผู้ผลิต ทราวิส บีชาม ได้เขียนไว้ ก่อนที่จะเอามาปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเป็นซีรีส์ยาวแปดตอนร่วมกับ เรอเน เอเชวาร์เรีย แสดงนำโดย ออร์แลนโด บลูม, ติดอยู่ร่า เดเลวีน, ไซมอน แมคเบอร์นีย์, แทมสิน เมอร์เฉลียงต์, เดวิด จีอาซี่ สร้างโดย Legendary Television ออกฉายทางสตรีมมิ่ง อะเมซอน ไพรศรีม์
ตั้งแต่ส.ค.ปี 2019 แม้กระนั้นกว่าผมจะได้มาเปิดมองก็ในระหว่างที่มีข่าวสารว่าจะมีฤดูกาล 2 ผมเลยจำต้องมาดูสักนิดสักหน่อยว่ามีดียังไง พูดได้ว่าเกิดเรื่องที่นอกสายตามากมาย หากแม้กระแสตอนออกมาใหม่ๆจะไปในทางดี แต่ว่าเนื่องจากว่าตอนนั้น ผมไม่ทราบเลย มิได้หาซีรีส์อะไรดูด้วย เลยพลาดไป แม้กระนั้นนี่เป็นช่องทางที่ดีที่พวกเราจะมาทำความรู้จักกับซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่เปี่ยมไปด้วยงานสร้างเหนือจริง แล้วก็มากมายด้วยผู้แสดงมากมายความสามารถอย่างแออัด พล็อตที่เปิดตัวด้วยความรักและก็การฆาตกรรม ผสมกับเรื่องเทพนิยายรวมทั้งโลกในแบบสตรีมพังก์สมัยวิคตอเรียศตวรรษที่ 17 มันจะก่อให้โลกด้านในเรื่องน่าดึงดูดไหม และก็อะไรที่ทำให้มันดีกระทั่งสามารถได้ไปต่อในฤดูกาลหน้าด้วย
“กล่าวถึงโลกในศตวรรษที่ 17 เรื่อง 7 ปีภายหลังจากการรบระหว่างมนุษย์กับชาวแพ็ค ซีรี่ย์ฝรั่ง ได้กำจัดเหล่าเฟที่เคยอาศัยบนแผ่นดินเทอร์นาน็อกเดิมไปจนถึงแทบหมดเกลี้ยง ไรครอคอยฟต์ ฟิโลสเตรต ตำรวจสืบสาวผู้เคยผ่านสนามรบรบ เป็นเพียงผู้เดียวที่เต็มอกเต็มใจจะหยุดการฆาตกรรมรวมทั้งรักษาความสงบสุขที่แสนบอบบางในเบิร์ก เมืองมนุษย์ที่ๆเต็มไปด้วยการแบ่งชนชั้นทางสังคม แต่ว่าเมื่อวินเยตต์ สโตนมอสส์ เฟสาวที่หลบซ่อนหนีรวมทั้งได้เจอกับการสิ้นไปต้องหาทางที่จะเอาชีวิตรอด
วินเยตต์ยังจำเป็นต้องเข้าไปพันพัวกับอะไรบางอย่างที่น่าน่ากลัว ท่ามกลางสังคมที่ปรารถนาเค้าหน้าแล้วก็เงินของเอ้อร์ซ่ารวมทั้งอิโมเจน สเปิร์นโรส กับพัคผู้อ่อนน้อมถ่อมตนอย่างเอ้อร์กัส การบ้านการเมืองที่ช่วงชิง ชิงเด่นของครอบครัวหัวหน้าเมืองอย่าง แอบซาลอม กับเมียและก็ลูกชาย เพียงพอร์เตียกับโจนาห์ เบรกสเปียร์กับคู่คัดค้านอย่าง ริทเตอร์ กับโซฟี ทดลองเกอร์เบน ความต้องการรวมทั้งความชื่นชอบในคาร์นิวัล โรว์ของเหล่าเฟกับมนุษย์ที่อยากความสบาย ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพัครวมทั้งชาวโทรลที่ยากจนข้นแค้นและก็โกรธเคือง รวมทั้งเงามืดที่ซ่อนใต้เมือง ท่ามกลางความสับสนรวมทั้งวกไปวนมาของเมืองเบิร์ก
จะดึงทุกคนในเมืองไปสู่โชคชะตารวมทั้งอนาคตที่ไม่บางทีอาจคาดคะเน”ถึงแม้หน้าหนังจะมองเป็นซีรีส์รักต่างเชื้อสายแบบที่ซีรีส์แฟนตาซีเป็นกัน แต่ว่าจริงๆมันเป็นซีรีส์แนวการบ้านการเมืองสังคมที่ฉาบด้วยการสอบปากคำผสมกับส่วนประกอบแบบเทพนิยายที่หมองหมองและไม่ได้งดงาม มันเต็มไปด้วยการกดขี่ของเชื้อชาติที่แตกต่าง โดยใช้ตัวกลางเป็นตัวเองชายรวมทั้งหญิงเป็นตัวสะท้อนภาพพวกนั้นให้คิดคงจะเป็นการเลียนแบบสังคมระบบทุนนิยมอเมริกาในขณะนี้ที่มีการแบ่งผิว เหยียดคนที่ย้ายถิ่นเข้ามาในประเทศ
โดยใช้สิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติแทนภาพของบุคคลภายนอกที่ไม่ถูกกฏหมายและไม่ได้สารภาพจากคนชนชั้นที่สูงกว่าหรือเป็นผู้ชนะการสู้รบ รวมทั้งเปลี่ยนภาวะเป็นแรงงานหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นนางคณิกาปฏิบัติงานข้างในซ่องโสเภณีให้มนุษย์ใช้ระบายความต้องการรวมทั้งเย้ยหยันไปๆมาๆ ส่วนสิ่งที่หลงเหลือของผู้แพ้เป็นการเปลี่ยนภาวะเป็นนิทรรศการให้คนคนชั้นสูงได้มาเชยชม เช่นเดียวกันกับมันไร้คุณค่าอะไร คนคนชั้นสูงที่มีความรู้สึกว่าการเกื้อกูลผู้ย้ายที่อยู่เป็นเสมือนพระมาโปรดและไม่ควรต้องตั้งใจสนใจอะไรอีก
โดยมีความเชื่อมโยงอันสลับซับซ้อนระหว่างความรักและก็ผลตอบแทน ความปรารถนารวมทั้งความชัง การฆ่ารวมทั้งแรงกระตุ้น ที่ถึงแม้ว่าซีรีส์จะให้นักแสดงอย่างวินเยตต์ กับ ไฟโลเป็นตัวนำ แต่ว่าก็เล่าสิ่งแวดล้อม มุมมองของผู้แสดงอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องในทางคดีหรือทางเรื่องราว ทำให้มันเป็นซีรีส์แนวไต่สวนที่มีการปูบทพอเหมาะพอควร นึกออกว่ากว่าเรื่องจะติด จำเป็นต้องใช้เวลา 3 ตอนอย่างยิ่งจริงๆ ถ้าหากคนใดกันเบื่อๆก็ไม่ต้องสนเท่ห์ใจ เพราะเหตุว่ามันจะเบาๆดูหนังผ่านเน็ต สร้างโลกที่น่าไว้ใจรวมทั้งเป็นได้ เหมือนกับ ฉากเซ็กส์ระดับ 20+ ที่มองเห็นหมดในดูเหมือนจะทุกในขณะที่มี ฉากการฆ่าสังหารหรือล้วงเครื่องในแต่ละในขณะที่ชั่วร้ายระดับ 18+ ที่ดูแล้วอาจจะลำบากใจแน่นอน
ผู้แสดงในเรื่องถูกแบ่งได้เป็นสามเส้นเรื่อง เป็นต้นว่า ชนชั้นเฟ คนชั้นสูง และก็ชนชั้นดูแลที่ต่างมีเรื่องมีราวราวรวมทั้งปัญหาเป็นของตนเอง ซึ่งบางทีมันก็เด่นจนกระทั่งแย่งซีนเส้นเรื่องอื่นๆแล้วก็เกือบจะมิได้เกี่ยวข้องกันโดยตรงเท่าไรนัก เพียงแค่มันอยู่บนพื้นที่เดียวกันแม้กระนั้นต่างมุมมอง เพราะฉะนั้นพวกเขาจะมีมุมมองของตนเองไม่เหมือนกันเมื่อมองดูไปที่อีกชนชั้นหนึ่ง ตามสิ่งที่พวกเขาเป็นแล้วก็บางครั้งก็อาจจะเปลี่ยนได้ตามความจำเป็นการยินยอมรับ ความทะยานอยากที่จะยิ่งใหญ่ในสังคม
ถูกเสนอออกมาอย่างมีมิติและไม่ได้แบนราบ ซีรี่ย์ฝรั่ง เนื่องจากว่าทุกผู้แสดงมิได้ดีหรือร้าย 100 เปอร์เซนต์ แต่ว่าให้เรียกว่ามีเป้าหมายเป็นของตนเอง ในเวลาเดียวกันก็จะมีการเบาๆใส่ความโรแมนติกต่างชนชั้นเข้ามาให้มองเห็นวิวัฒนาการของนักแสดงในเรื่องไปพร้อมๆจนกระทั่งสิ้นเรื่องอีก ชนชั้นการบ้านการเมืองก็จะมีเรื่องมีราวของผลตอบแทนทับซ้อน การคิดคดทรยศคิดคด การเดินหน้าสู่ความโหฬาร ผู้แสดงต่างมีบุคลิกภาพไม่เหมือนกันแล้วก็เด่น มีเส้นเรื่องเป็นของตนเอง ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากเส้นเรื่องหลัก ช่วยทำให้โลกในเรื่องยิ่งใหญ่เข้าไปอีก
ในส่วนของชนชั้นเฟก็จะมีความเป็นแฟนตาซีครึ่งหนึ่งไต่สวนที่เชื่อมโยงกันผ่านคดีการฆ่า พูดได้ว่ามองซีรีส์หัวข้อนี้ ได้มองหลายแนว โรแมนติก ดราม่า การบ้านการเมือง ตื่นเต้น แฟนตาซี แล้วก็แปลงเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าหากให้ผมเล่ามากยิ่งกว่านี้มันก็จะเสียอรรถรสเนื่องจากถ้าอย่างนั้นต้องการให้ไปดูด้วยตาของตนเองสิ่งที่เป็นหัวข้อสำคัญที่รู้เรื่องได้ง่ายที่สุดในเรื่องสำหรับผมเป็นการอย่ามองดูผู้ที่รูปลักษณ์ภายนอก ควรดูที่ด้านใน พวกเราไม่มีทางรู้ดีว่าคนไหนที่เป็นคนดีราวกับฐานะ หรือคนไหนกันแน่ที่เป็นคนชั่วช้าสารเลวอย่างกับความประพฤติ
เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแบบนั้น ผู้ที่ถูกเย้ยหยันอาจมีเกียรติยศสูงสุด ผู้ที่มีหน้ามีตาบางทีอาจน่าสะอิดสะเอียนที่สุด ผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบางทีอาจอยู่ฝั่งเดียวกันมาตลอด โน่นเป็นสิ่งที่เดามิได้ของทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิตข้างในเรื่อง พวกเราจำต้องศึกษาที่จะเปิดใจและก็เข้าถึงตัวของคนคนนั้นว่าเขาปรารถนาดีกับพวกเราหรือต้องการจะรังแกพวกเรา สิ่งที่พวกเราได้ทำเป็นการเปลี่ยนมุมมองตนเอง มองดูทั้งหมดทุกอย่างให้คือเรื่องปกติไม่มีความสลับซับซ้อน ราวกับผู้แสดงในเรื่องที่ทราบตาไม่รู้เรื่องหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อสายอะไรจะมาจากไหน ก็แทบจะไม่มีความแตกต่างกัน ความลับเป็นสิ่งที่เก็บงำข้อเท็จจริง พวกเราจะต้องรู้จักที่จะเห็นด้วยในสิ่งที่ตนเองเป็นจริงๆไม่ปกปิดและไม่แกล้งแล้วพวกเราจะมีอิสรภาพและก็ศึกษาค้นพบความสำราญอย่างแท้จริง
Troll โทรลล์
หนังตัวประหลาดจากประเทศนอร์เวย์ ประเทศที่พวกเราไม่ค่อยได้ได้ผลงานของเขาเท่าไรนักแม้กระทั้งในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์นี่ด้วย แต่ว่าครั้งนี้เป็นผลงานที่เรียกว่าน่าชัดเจนกำเนิดแล้วก็สร้างชื่อให้กลุ่มผู้ผลิตมากมาย เมื่อเลือกกล่าวถึงแนวอสูรกายขนาดยักษ์บุกเมืองที่ถึงแม้อีกทั้งพล็อตอีกทั้งไอเดียจะมิได้ใหม่ แต่ว่านี่เป็นงานสเกลใหญ่ยักษ์มากมายในระดับที่แม้กระทั้งฮอลลีวูดเองจะทำอย่างงี้ได้ก็ยังจำต้องคิดมาก แม้กระนั้นประเด็นนี้เป็นผลงานที่สอบได้ฉลุยอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะได้ผลสำเร็จงานทุนปานกลางที่ลงเน็ตฟลิกซ์ด้วย
ตัวเรื่องแทบลอก+ยำจากพวกแนวนี้ของฝรั่งอย่าง คิงคอง จูราสสิคปาร์ค และก็อีกหลายๆเรื่องมาเลย ด้วยการให้ผู้แสดงนำเป็นนักบรรพชีวินวิทยา (เล่าเรียนฟอสซิล) ลักษณะเดียวกันกับจูราสสิคปาร์ค และก็มีบิดาที่เชื่อในเรื่องตำนานเก่าก่อนเป็นเงื่อนดราม่าความไม่รู้เรื่องกันสองบิดาลูก ตามสไตล์ฮลลีวู๊ดเป๊ะ ซึ่งผู้กำกับเป็นชาวประเทศนอร์เวย์ก็จริงแต่ว่าก็เป็นผู้กำกับ Roar Uthaug ที่เคยปฏิบัติงานฮอลลีวู๊ดอยู่แล้วอย่างทูมไรเดอร์เวอร์ชั่นปัจจุบัน ทำให้อารมณ์การเดินเรื่องแทบมิได้มีความรู้สึกว่าเป็นหนังประเทศนอร์เวย์เลย
รวมทั้งเป็นแถวสูตรสำเร็จกล้วยๆที่คนรู้จักมักคุ้น แต่ว่ามันก็ทำให้เรื่องราวมองลื่นไหลสนุกสนานแบบไม่ต้องคิดมาก ราวกับได้มองคิงคองเวอร์ชั่น Netflix ที่เพียงแค่ได้มองเห็นตัวโทรผุดผ่องกมาเผาผลาญสิ่งต่างๆพอเพียงแล้วซึ่ง CG อีกทั้งเรื่องตั้งแต่ฉากแรกก็อยู่ในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ ไม่รู้จักสีกถึงความหลุดหรือ CG ลอยในทุกฉากของหัวข้อนี้ (ถ้าหากไม่ขนาดนั่งจับผิด) และก็ตัวเรื่องก็แทบจะไม่กั๊กตัวโทรลไว้เลย หากแม้ระยะแรกกว่าจะเผยตัวได้ใช้เวลานานหน่อย แต่ว่าบทในตอนนั้นก็ทำออกมาได้ไม่มีเบื่อ
ด้วยเหตุว่าเป็นการปูเรื่องราวของผู้แสดงต่างๆตั้งแต่นายกฯ ที่ปรึกษานายกที่ส่งมาช่วยนางเอก ซีรี่ย์ฝรั่ง หัวหน้าทหารที่มีภารกิจนำพานางเอกไปแสวงหาว่าสิ่งนี้มันเป็นยังไง รวมทั้งบิดานางเอกที่เป็นเงื่อนดราม่าไม่ตรงกันกับความศรัทธาของลูก ซึ่งทุกผู้แสดงในขั้นแรกถูกวางหน้าที่ให้มีความจำเป็นเฉลี่ยบทก้าวหน้าทุกคน เพื่อที่ผู้แสดงกลุ่มนี้จะเปลี่ยนมาเป็นกรุ๊ปเล็กๆที่กู้วิกฤตคราวนี้ได้ (ตามสูตรฮอลลีวูด) แทนที่จะเป็นพวกนักการเมืองนายทหารของรัฐบาลที่ถูกวางให้เป็นตัวร้ายเล็กๆบ้าอำนาจตามสูตรเช่นเดียวกัน และก็ที่สำคัญเป็นนักแสดงมนุษย์ทั้งหมดทั้งปวงก็มิได้ถูกยัดบทมาแบบน่ารำคาญราวกับพวกหนังตัวประหลาดยักษ์ธรรมดาที่มักยัดมาเพื่อหนังมีอะไรเล่ายาวๆลดฉากอสูรกาย เซฟงบประมาณอะไรแบบงั้น
เรื่องราวที่พาลึกเข้าไปในเทือกเขาโดฟเรอของประเทศนอร์เวย์ มีบางอย่างขนาดใหญ่โตมโหฬารตื่นภายหลังถูกกักคุมมานานนับพันปี มันทำลายทุกสิ่งที่กีดขวาง แล้วก็กำลังเข้ามาใกล้เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์อย่างเร็ว มีเพียงแต่ นูร่า ครั้งเดอมันน์ นักค้นคว้าบรรพชีวินวิทยา ที่รู้เรื่องและก็เป็นหวังเดียวที่จะระงับหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะเหตุว่านี่มันเป็นสิ่งที่ใครๆก็มีความคิดว่ามีอยู่เพียงแค่ในนิทานพื้นบ้านของประเทศนอร์เวย์ได้ยังไง?
แน่ๆว่าหนังสเกลขนาดนี้จำต้องมอบหมายให้เขาผู้นี้ “รอคอยร์ อูธัก” มารับหน้าที่สำหรับเพื่อการประดิษฐ์ เพราะว่าเขาเป็นผู้กำกับโด่งดังชาวประเทศนอร์เวย์ ที่รู้จักกันดีในหนังหายนะสึนามิ The Wave รวมทั้ง Tomb Rider เวอร์ชั่นปี 2018 ซึ่งเขาก็รับหน้าที่นี้ได้อย่างดีเยี่ยม สามารถต่อกรกับงานสร้างที่ยิ่งใหญ่ในแบบความเป็นหนังประเทศนอร์เวย์ โปรดักชั่นบางครั้งก็อาจจะมิได้ยิ่งใหญ่พอๆกับฮอลลิวูด แม้กระนั้นจัดได้ว่าเขาทำออกมาได้ดิบได้ดีเสมอกันมาตรฐาน
รอคอยร์ อูธัก ยังรับหน้าที่ออกไอเดียเกี่ยวกับสตอปรี่ของหนังหัวข้อนี้ด้วย ทำให้เขารู้จักแนวทางรวมทั้งใส่ลูกเล่นได้อย่างเชี่ยวชาญ ถึงแม้องค์ประกอบเรื่องในหนัง Troll จะเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จที่ผู้ชมคงจะทายใจแนวทางต่างๆพอใช้ ทั้งยังเงื่อนหายนะรวมทั้งความเกี่ยวเนื่องระหว่างนักแสดง แต่ว่าการเล่าเรื่องรวมทั้งงานสร้างของหนังก็ยังกระตุ้นความน่าดึงดูดใจให้กับผู้ชมเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งทำออกมาเป็นหนังที่มอบความรื่นเริงใจได้ครบรสแล้วก็ทราบดีว่าผู้ชมอยากอะไร
ถึงแม้ว่าหนังประเทศนอร์เวย์จะไม่ใช่หนังเมนสตรีมระดับนานาชาติสักเท่าไหร่นัก แม้กระนั้นความสามารถของพวกเขาก็ดีแล้วขึ้นเป็นลำดับ ผู้ชมบางครั้งก็อาจจะมิได้คลุกคลีรวมทั้งเคยชินเกี่ยวกับแวดวงหนังประเทศนอร์เวย์สักเท่าไหร่ แม้กระนั้นบอกได้เลยว่างานโปรดักชั่นของพวกเขาก็ทำออกมาได้ดิบได้ดีแบบยกนิ้วให้อย่างยิ่งจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคล็ดวิธีพิเศษแล้วก็งานซีจีต่างๆของประเด็นนี้นับว่าทำออกมาได้เนียนกว่าที่คิด
งานดีไซน์วางแบบตัวอสูรกายที่อ้างอิงมาจากผู้แสดงในตำนานโบราณ นับว่าใส่เนื้อหาเข้าไปอย่างใช้ได้ และก็อาจจะกล่าวว่าข้อเด่นของหนัง Troll ประเด็นนี้ก็คือแม้ว่าจะเป็นหนังหายนะสูตรสำเร็จ แต่ว่ามันเป็นสตอปรี่เกี่ยวกับดินแดนที่โลกยังไม่ค่อยรู้จัก มันเลยกลายเกิดเรื่องราวแปลกใหม่ให้กับผู้ชมได้โดยแท้จริง มันสดใหม่กว่าหนังมาร์เวล หรือหอมมากยิ่งกว่าหนังหายนะคอนเซ็ปต์เวอวังจากฝั่งอเมริกา ด้วยเหตุดังกล่าวตัวหนังก็เลยมีลักษณะเด่นในด้านนี้
ตอนที่พาร์ททางด้านการแสดงนั้น ซีรี่ย์ฝรั่ง บางทีอาจจะไม่คลุกคลีรวมทั้งมีประสบการณ์ได้มองผลงานการแสดงเรื่องก่อนๆของกลุ่มผู้แสดงชุดนี้ แม้กระนั้นพวกเขาก็นับว่ามอบการแสดงก้าวหน้าตามมาตรฐาน แม้ว่าจะเป็นพาร์ทที่ค่อนข้างจะอ่อนไปสักนิด แม้กระนั้นขั้นต่ำๆหนังก็ยังมีจุดเย้ายวนใจเป็นส่วนประกอบของตัวประหลาดในตอนจูงใจเป็นจุดเสริมชดเชยกันได้ค่อนข้างจะดี
เนื่องจากว่าหัวข้อนี้ก็ไม่ใช่หนังใหญ่แบบทุ่มทุนสร้างลงโรงอะไร ด้วยเหตุผลดังกล่าวบทของโทรลล์ก็เลยถูกวางไว้ให้มีลิมิตเหมาะสมกับสเกลงานลงสตรีมมิ่ง เป็นมีฉากออกมาก แม้กระนั้นไม่ถึงกับเป็นหนังตัวประหลาดทำลายแบบก็อดสิล่าอะไรอย่างงั้น เพียงแค่เดินๆผ่านแล้วไปชนอาคารบ้านจนกระทั่งพังทลาย พวกกองกำลังทหารที่ต่อสู้ด้วยก็มีเพียงแค่ซีนเดียวสั้นๆแบบจำกัดมิได้มองเห็นระเบิดอะไรตูมตามมากมายตอนกึ่งกลางเรื่อง ต่อมาเป็นการเขียนบทที่เอาความศรัทธาตามตำนานเกี่ยวกับข้อด้อยของโทรลล์มาสู้แทนที่อาวุธ
ซึ่งถือเป็นการเลือกวิถีทางจำกัดงบประมาณที่ดีและก็เหมาะเหม็งพอดีกับการที่ประเทศนอร์เวย์เสนอเอาโทรลล์ขึ้นมาด้วย เมื่อเรื่องราวมีการเชื่อมไปถึงต้นเหตุที่โทรลล์ตัวนี้ปรากฎตัวออกมา แบบความเป็นมาเชื่อมกับความลับการจัดตั้งสร้างประเทศนี้ รวมทั้งเปลี่ยนมาเป็นดราม่าช้ำใจให้อารมณ์ชนิดเดียวกันกับคิงคองที่พอเพียงทราบดีว่าที่จริงแล้วมันไม่ใช่สัตว์ร้าย แม้กระนั้นคนต่างหากที่ร้ายกว่า ทำให้โทรลล์ในประเด็นนี้มีผลสรุปจบที่ไม่ใช่แนวทำลายที่ดีพอสมควรเลย แม้กระนั้นก็ยังแอบอ้าเผื่อไว้ทำภาคต่อได้อีกด้วย
นับว่าเป็นหนังหายนะตัวประหลาดที่ทำออกมาได้ค่อนข้างจะดียิ่งกว่าที่คิดไว้ภายในพื้นฐาน บางครั้งอาจจะเนื่องจากว่าความสดใหม่ในเรื่องราวที่โลกยังไม่ค่อยได้สัมผัสกับตำนานในโซนนี้สักเท่าไหร่ ก็เลยเปลี่ยนออกมาเป็นความว้าวให้กับผู้ชมได้อย่างไม่คาดฝัน ในเวลาเดียวกันงานสร้างแล้วก็โปรดักชั่นหนังประเทศนอร์เวย์หัวข้อนี้ก็นับว่าใช้ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องย้ำซีจีเป็นจำนวนมากแล้วก็แอคชั่นเป็นกระบุง ก็สามารถประคองหนังอีกทั้งเรื่องออกมาได้น่าประทับใจได้
เป็นความพากเพียรอีกทีของผู้กำกับ คอยร์ อาทัก (Roar Uthuag) ผู้กำกับดาวรุ่งจากประเทศนอร์เวย์ ภายหลังมี The Wave (2015) หนังคลื่นสึนามิกระหน่ำโลกได้ผลงานสร้างชื่อ ได้เป็นผู้แทนหนังจากประเทศนอร์เวย์ไปเข้าชิงออสการ์ สาขาภาพยนตร์เมืองนอก รวมทั้งเป็นหนังสือเบิกทางให้เขาได้ไปสู่ฮอลลีวูด ได้รับหน้าที่จับบังเหียน Tombraider (2018) ที่เปลี่ยนเป็นทั้งยังภาครีบูต และก็ภาคดับฝันที่จะเอากลับคืนชีพ ลารา ครอคอยฟต์ ขึ้นมาอีกรอบ ทำให้ผู้กำกับอาทักจำเป็นต้องหวนคืนประเทศนอร์เวย์ถิ่นกำเนิด
แม้กระนั้นก็ยังคงเล่นใหญ่สไตล์เดิม ตอนนี้ไม่เล่นกับอุบัติภัยธรรมชาติล่ะ แม้กระนั้นเล่นกับยักษ์จริงๆเลย ด้วยการจับเรื่องราวของ โทรลล์ ยักษ์ในตำนานฝรั่ง ให้มีตัวตนจริงๆมาบุกเมืองกันไปเลย ไม่มีการเปิดเผยว่ารอบนี้ใช้ทุนสร้างไปเยอะแค่ไหน แต่ว่าจากหน้าหนังที่มองเห็นทั้งยังงานซีจี และก็โปรดักชันที่เป็นสเกลใหญ่ก็คงจะไม่น้อยละก็จัดว่าคณะทำงานบากบั่นเสาะหาไอเดียที่แปลกใหม่มาเล่น ในเวลาที่ฮอลลีวูดพากันสร้างภาพยนตร์ตัวประหลาดยักษ์ออกมาเยอะไปหมดแล้ว อีกทั้ง ไดโนเสาร์ คิงคอง และอดสิลลา
เนื่องจากว่าเป็นหนังจากยุโรป ก็เลยเลือกถือ โทรลล์ ยักษ์โบราณในตำนานที่เชื้อชาติตะวันตกรู้จักกันดี ให้มีชีวิตขึ้นมา แล้วออกมาเพ่นพ่านป่วนปั่นเมืองเสียเลยการเลือกเอาโทรลล์มาเป็นจุดขายนั้นยังไม่บอบช้ำนัก เนื่องจากคนชอบดูหนังฮอลลีวูดก็เคยได้เห็นเพียงแค่โทรลล์ โผล่มาหน่อยๆใน Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001) เท่านั้น และก็มาในรูปภาพยักษ์ตัวเขียวเสมือน Shrek เสียมากกว่า
จากนั้นก็มี Trollhunter (2010) หนังชนชาติประเทศนอร์เวย์ด้วยเหมือนกัน ที่มาในโทนเป็นจริงเป็นจัง แต่ว่าออกไปแนวสยองขวัญ เล่นกับรูปภาพที่นำมาจากกล้องถ่ายภาพแฮนด์เฮลด์ ด้วยเหตุนี้โทรลล์ในอุตสาหกรรมหนังก็ยังนับว่าแปลกใหม่ แล้วยังรู้จักกันทั่วทั้งโลก แม้กระนั้นสิ่งที่อาทักยังหลีกลี้มิได้ก็คือแบบอย่างการเล่าเรื่องที่ยังคงยึดมั่นขนบเดิมๆในหนังตัวประหลาดยักษ์ตลอดตัวเอกที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ รวมทั้งตัวร้ายที่เป็นนักการเมืองผู้มีอำนาจ
Compartment No.6 ละลายหัวใจที่ปลายโลก
Compartment No.6 ละลายหัวใจที่ปลายโลก เกิดเรื่องราวของ ลอร่า นิสิตชาวประเทศฟินแลนด์ที่มาเรียนอยู่ในรัสเซีย คุณปรารถนาหลีกลี้ความเกี่ยวเนื่องอันวุ่นจากกรุงมอสวัวว ด้วยการขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปยังเมืองเมอร์สนุกค เมืองท่าอันเหน็บหนาวขอบห้วงสมุทรอาร์คติก ลอร่าบอกใครๆว่าวัตถุประสงค์ของการเดินทางเพื่ออยากมองภาพแกะหินโบราณ แต่ว่าลึกๆในใจของคุณแล้ว คุณหวังว่าระยะทางอันยาวไกลกับความเย็นเยือกของอากาศจะสามารถช่วยปรับจิตใจบอบช้ำๆของตนเองเปิดโอกาสที่ตายด้าน แม้กระนั้นปรากฏว่าในตู้รถไฟลำดับที่ 6 ตู้นั้น…หัวใจของลอร่ากลับอบอุ่นมาขึ้นอีกรอบ
อาจจะจะต้องรับตรงๆว่า การซื้อตั๋วมาดูหนัง Compartment No.6 ประเด็นนี้นั้น ซีรี่ย์ฝรั่ง เกือบจะไม่มีข้อมูลเบื้องต้นอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับหนังหัวข้อนี้เลย รู้แค่เพียงว่าเป็นหนังที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ แล้วก็ส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะมีประสบการณ์กับหนังทางฝั่งรัสเซียมากมายสักเท่าไหร่นัก รวมทั้งนี่ก็คือหนังที่บอกภาษารัสเซียผสมปนเปกับภาษาฟินนิชไปอีกทั้งเรื่อง นี่สำเร็จงานของนักทำนักดาวรุ่งชาวประเทศฟินแลนด์ “ยูโฮ คูโอสมาเนน” ที่ถือว่าผลงานชิ้นเป็นงานหนังเรื่องยาวเรื่องที่ 2 ของเขา แล้วก็ยังร่วมเขียนบทหนังด้วย โดยปรับเปลี่ยนมาจากนิยายของ โรซา ลิกซอม
ก็จำเป็นต้องบอกไว่ไม่เคยได้ได้โอกาสมองผลงานก่อนๆของผู้กำกับรายนี้ รวมถึงยังไม่เคยสัมผัสกับท่าทางการแสดงของดารานำในเรื่องด้วย รวมทั้งนี่ก็คือประสบการณ์แปลกใหม่ทีแรกล้วนๆและพบว่า Compartment No.6 เป็นหนังเกี่ยวกับการเดินทางที่มีสวัวปเรื่องราวแค่เพียงเล็กๆแต่ขยายความออกมาระหว่างทางการเดินทางของผู้แสดงได้อย่างเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยอย่างน่าดึงดูด กระทั่งพิจารณาออกมาเป็นหนังรักที่มีรสชาติที่อบอุ่น ผสมปนเปไปกับความหวานอมขมกลืนอย่างบอกผิดพล็อตเรื่องของหนังก็ราวกับพวกละครไทย
เพราะเหตุว่าเริ่มด้วยความเกลียดชังขี้หน้ากันและกันของนักแสดงหลัก แม้กระนั้นด้วยการคลุกคลีกับการเดินทางสำหรับเพื่อการขึ้นรถรถไฟตู้เดียวไปตลอดนับเป็นเวลาหลายวัน แปลงเป็นการจูนปรับเข้าพบกันแล้วก็ทำความเข้าใจเรื่องราวของกันและกันมากเพิ่มขึ้นด้วยการทะลายกำแพงที่ก่อขึ้นเอาไว้ตั้งแต่ต้นเจอไปที่ละชั้นๆดูหนังเป็นหนังก็แอบทำให้พวกเราระลึกถึงภาพยนตร์ไทยอย่าง กวน มึน โฮ อยู่หน่อยๆด้วยโครงที่ว่าด้วยชายหญิง 2 ผู้ที่พึ่งจะมาพบกันในสถานที่ที่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน รวมทั้งยังมาพร้อมกับความบอบช้ำที่ปกปิดอยู่ภายใน เปลี่ยนเป็นเส้นเรื่องสูตรสำเร็จที่ใช้ได้เวิร์กเป็นประจำ
แม้กระนั้นถ้าว่าจะมองดูเป็นมุมมองเทียบกับหนังดังๆระดับสากล จะว่าเชื้อเชิญให้นึกถึง “Lost in Translation” หรือ “In the Mood for Love” ผสมความเป็น “Before Sunset” แบบที่นักวิพากษ์วิจารณ์ประเทศนอกชูมาเทียบเคียงกันก็ไม่ผิด การแสดงของ “เซดี ฮาร์ลา” กับ “ยูริ บาริซอฟ” ออกมาเป็นธรรมชาติมากมาย เป็นการแสดงที่ราวกับไม่ใช่การแสดงเลยนิดหน่อย ทั้งสองสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของผู้แสดงออกมาได้แจ่มกระจ่าง แม้ว่าจะเป็นหนังโรแมนซ์ กลับมิได้ยัดเยียดข้อหาโรแมนซ์เข้าไปในหนังแบบชัดแจ้งด้วยวิธีการแสดงที่ออกจะน่าประทับใจไม่น้อยเลย
Compartment No.6 ละลายหัวใจที่ปลายโลก ลอร่า (เซดี ฮารา) นิสิตสาวจากประเทศฟินแลนด์ที่กำลังเรียนภาษาที่กรุงมอสโคว์ อาศัยอยู่กับนักประพันธ์หญิงคนรักที่ดูเหมือนจะจัดจ้าในแวดวงสังคมมากยิ่งกว่า หนังชี้ให้เห็นตั้งแต่ฉากแรกว่า ลอร่าเป็นหญิงสาวที่กำลังอุตสาหะหาพื้นที่ของตนเองในโลก และไม่แน่ชัดว่าตนเองพึงพอใจอะไรหรือต้องการทำอะไรถัดไป พวกเราพิจารณาได้ว่าลอร่าใช้แนวทาง “จำคำบอกเล่าคนอื่นๆ””
มาตอบปัญหาที่ตัวคุณเองยังไม่มีคำตอบ การวาดภาพบุคลิกลักษณะลอร่าให้พวกเรามองเห็นได้ในไม่กี่ฉากแรก เป็นความสามารถของผู้กำกับ (ด้วยการใช้เฟรม กล้องถ่ายรูป และก็เพลงประกอบ) แล้วก็ความรู้ความเข้าใจนี้จะยิ่งกระจ่างแจ้งขึ้นเรื่อยเมื่อคุณตกลงใจเดินทางรางรถไฟไปยังเมืองไกลห่างใกล้ขั้วโลกเหนือของรัสเซีย ชื่อเมืองมูมัน เพื่อไปดูภาพสลักหินอายุ 7,000 ปีทริปนี้แฟนของคุณน่าจะร่วมเดินทางไปด้วย กลับเทคุณในนาทีท้ายที่สุด ลอร่าจำต้องเดินทางผู้เดียวรางรถไฟที่ดูแล้วภาวะมิได้ดีมากยิ่งกว่ารถไฟไทยสักเท่าไหร่ แถมยังเป็นทริปที่จะต้องอาศัยอยู่ในตู้นอนแคบๆยาวนานหลายวันหลายคืน ผ่านทัศนียภาพขาวมากและก็แทบไม่มีผู้คน
ผ่านเมืองที่ภาวะมอมแมม (หนังมิได้บอกแจ่มแจ้งว่าเกิดเรื่องราวใน คริสต์ศักราช ใด ซีรี่ย์ฝรั่ง แม้กระนั้นพวกเราอนุมานจากสิ่งแวดล้อมรวมทั้งของประกอบฉากได้ว่า นี่เป็นตอนที่ภาวะรัสเซียพึ่งจะแตกได้ไม่นาน บางครั้งอาจจะราวต้นทศวรรษที่ 2000) ท่าทางอันลังเลของลอร่า ทำให้พวกเรารู้เรื่องว่าคุณมิได้พึงพอใจหรือ “อิน” กับแหล่งโบราณคดีวิทยาไกลสุดขอบโลกนี้จริงๆหรอก คุณเพียงแต่อยากไปไหนสักที่ และก็อยากผัดผ่อนแรงกดดันที่ตนเองจำเป็นต้องตอบปัญหาว่า “แล้วจะเอาอย่างไรต่อกับชีวิต” การเดินทางเป็นเพียงแต่คำกล่าวอ้างของคุณแค่นั้น ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต
สหายร่วมตู้นอนลำดับที่ 6 ของลอร่า เป็นหนุ่มน้อยรัสเซียชื่อโยฮา (ยูรี บอริซอฟ) สรับประทานเฮด ชั่ว รับประทานอาหารเปรอะเปื้อน เมาปลิ้นตั้งแต่คืนแรก ทำเอาลอร่าแทบจะต้องการจะกลับใจเลิกทริป แม้กระนั้นเมื่อเหตุการณ์จำให้คุณจำเป็นต้องแชร์ตู้นอนกับหนุ่มน้อย ทำให้ทั้งคู่เริ่มคืนดีต่อกัน ไปตู้เสบียงกรังร่วมกัน ลงไปแวะพักระหว่างทางร่วมกัน ดวดวอดก้ากัน (รับประทานเท่าไรก็อาจไม่เพียงพอ เพราะเหตุว่าด้านนอกโน่นมองหนาวมากมายๆ) รวมทั้งเริ่มมองเห็นอารมณ์โศกสลดเหงาหงอยลึกๆที่หลบอยู่ในต่างข้าง โยฮาพูดว่าเขากำลังจะออกเดินทางไปปฏิบัติงานเหมืองที่เมืองมูมัน
แล้วก็เขาไม่รู้เรื่องว่า ลอร่าจะไปแรมรอนเดินทางหลายคืนในรถไฟเก่าๆเพื่อไปดูภาพสลักหินโบราณเพราะเหตุไรในสถานที่อันไกลห่างขนาดนั้น “ดูแล้วก็กลับ เพียงเท่านั้นหรอ”นี่ไม่มีความต่างจากหนัง rom-com ที่ผู้แสดงนำชายนางเอกเป็นบิดาแง่แม่งอนกันในตอนแรก ถึงขนาดชังขี้หน้ากัน แม้กระนั้นในที่สุดกลับมาจบกัน แม้กระนั้นสิ่งที่ Compartment No. 6 แสดงให้พวกเรามองเห็น เป็นความประณีตบรรจงและละเอียดลออทางอารมณ์ของคนสองผู้ที่ถูกชะตาชีวิตบังคับให้ร่วมทางกัน เบาๆปรับปรุงความเข้าใจกันผ่านการแชร์ช่วงเล็กๆและก็ทำให้ทั้งสองดูเห็นว่าพวกเขาต่างเป็นเพียงแต่คนหลงทางที่คิดไปเองว่าพวกเรามีจุดหมายปลายทางในชีวิต (รวมทั้งมีจุดมุ่งหมายที่ปลายสถานีมูสนุก)
แม้กระนั้นที่จริงแล้วชีวิตบางทีอาจไม่เคยมีจุดมุ่งหมาย สะเปะสะปะ เป็นการเดินทางที่ไม่มีทางจบ atpcomo เป็นทริปเปล่าเปลี่ยวไม่มีความหมายไม่ว่าพวกเราจะให้ความใส่ใจกับมันเท่าใดก็ตาม ราวกับภาพสลักหินที่บางทีอาจมองมีค่า และก็จะต้องใช้ความมานะบากบั่นเช่นเดียวกันกับผ่านเส้นขอบฟ้าเพื่อไปถึง แม้กระนั้นท้ายที่สุดแล้วลอร่าก็ได้แต่เพียงดูๆดูๆหินอะไรสักก้อนเพียงแค่นั้นแต่ว่าลอร่ากับโยฮาศึกษาว่า สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีค่าเป็นเพื่อนร่วมทาง และก็การเห็นค่าของตอนที่เปี่ยมความจำ เพราะว่าความหมายที่จริงจริงของทุกการเดินทาง (หรือของชีวิต) เป็นสิ่งนั้น เป็นประสบการณ์ และก็การเห็นเศษเสี้ยวชีวิตของผู้คนอีกคน ไม่ว่าเขาหรือคุณจะมองไม่เหมือนกับพวกเราขนาดไหนในตอนแรก
นอกนั้น ส่วนประกอบโปรดักชั่นรวมทั้งส่วนประกอบศิลปใน Compartment No.6 ยังออกจะน่าดึงดูด เนื่องจากว่าหนังมีเบื้องหลังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนสมัยปี 90s เป็นหลัก พวกเขาสามารถเก็บเนื้อหาต่างๆของรัสเซียในตอนที่พึ่งพ้นภาวะจากการเป็นรัสเซียได้อย่างกลมกลืน ทั้งยังยังความท้าด้วยการใช้การถ่ายทำหนังด้วยการฟิล์มถ่ายรูปแบบสมัยก่อน เพื่อสร้างอารมณ์ให้กับโทนหนังที่เป็นหนังย้อนไปในสมัย 90s ได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไมดีอีกด้วยสรุปว่า Compartment No.6 ถือได้ว่าเป็นหนังรัสเซียที่ค่อนข้างจะน่าดึงดูด
มีส่วนประกอบหลายๆอย่างที่ทำออกมาได้ดิบได้ดีรวมทั้งมือถึง ซีรี่ย์ฝรั่ง จะต้องยกย่องการแสดงของ เซดี ฮาร์ลา ที่เอาหนังทั้งยังเรื่องได้อยู่มือ หากว่าบทหนังจะยังออกจะน้ำเสียนิยายไปสักนิด แม้กระนั้นก็มีการแปลความหมายถ่ายทอดออกมาในหนังด้วยแบบที่กลมกล่อมละมุนละไมกำลังเพียงพอ ด้วยสาเหตุของคนหงอยเหงา 2 คนบนรถไฟตู้นอนเดียวกัน เป็นการตีปัญหาเล็กๆที่เผยออกมาได้ค่อนข้างจะลึกซึ้งซาบซึ้งใจ และก็ยังแอบแฝงไปด้วยอินเนอร์ของตนเองที่ปลดปล่อยให้ผู้ชมไปคิดต่อยอดได้อีกน้อยด้วย
ผู้กำกับ ยูโฮ ปะทุสมาเนน เคยมีหนังอันเป็นที่รู้จักกันพอควรเรื่องที่ผ่านมา เป็นหนังนักมวยชื่อ The Happiest Day in the Life of Olli Maki หนังชีวิตเกี่ยวกับนักมวยที่มิได้มีความทะยานอยาก แม้กระนั้นจำเป็นต้องใกล้กับอยู่ในวงเวียนของการเป็นนักกีฬาอาชีพ อีกทั้ง The Happiest Day in the Life of Olli Maki และก็ Compartment No. 6 ต่างถูกเลือกเป็นผู้แทนของประเทศฟินแลนด์ส่งไปชิงออสการ์
